การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการดำเนินงานกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันในอำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพพื้นฐานส่วนบุคคล สังคม และเศรษฐกิจของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่  ปาล์มน้ำมัน 2) เพื่อศึกษาความสำคัญและการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน 3) เพื่อเปรียบเทียบการได้รับและความต้องการการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน 4) เพื่อศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน และ 5) เพื่อวิเคราะห์แนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน

ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันและเป็นสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน ในอำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปี พ.ศ. 2566 จำนวน 135 ราย กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร ยามาเน ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 102 ราย สุ่มตัวอย่างแบบง่าย ใช้แบบสัมภาษณ์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบจับคู่ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา    

ผลการวิจัย พบว่า 1) เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 59.64 ปี มีสถานภาพการสมรส จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีสถานะเป็นสมาชิกในกลุ่มแปลงใหญ่ มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน เฉลี่ย 9.96 ไร่ การถือครองที่ดินเป็นของตนเอง มีรายได้จากการปลูกปาล์มน้ำมัน เฉลี่ย 318,468.62 บาท/ปี ใช้เงินทุนของตนเองในการทำสวนปาล์มน้ำมัน  2) เกษตรกรมีระดับการให้ความสำคัญในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.42) ขณะที่ระดับระดับการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับน้อยที่สุด (ค่าเฉลี่ย 1.68) 3) เกษตรกรมีปัญหาการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.26) 4) เกษตรกรได้รับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันในระดับน้อย (ค่าเฉลี่ย 2.15) แต่เกษตรกรมีความต้องการการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันในระดับมากที่สุด (4.82) และ 5) แนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการดำเนินงานกลุ่มแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมัน ได้แก่ นักส่งเสริมการเกษตรมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้ สนับสนุน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ ผ่านสื่อบุคคล เช่น เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ผู้นำชุมชน และเกษตรกรต้นแบบ รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้วิธีการที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น การเยี่ยมเยียน การสาธิต การอบรม และการศึกษาดูงาน เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกร ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมและนำไปปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของกลุ่มแปลงใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น