การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขั้น (5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอบจ.บ้านนาบอน
เนื้อหาบทความหลัก
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขั้น (5E) กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนอบจ.บ้านนาบอน จำนวนนักเรียน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขั้น (5E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 แผน แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ มีค่าความยาก (p) 0.50-0.70 มีค่าอำนาจจำแนก (B) 0.27-0.64 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 10 ข้อ มีค่าความยาก (p) 0.52-0.73 มีค่าอำนาจจำแนก (B) 0.35-0.62 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test for one sample ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขั้น (5E) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 หลังการทดลองคิดเป็นร้อยละ 80.00 % ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
- ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 ขั้น (5E) มีค่า คะแนน เท่ากับ 15.3 ซึ่งอยู่ในระดับดี